เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกกต. กล่าวถึงกรณีคำร้องการถือหุ้นสื่อของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล นั้นว่า มีการยื่นคำร้องมา 3 คำร้อง อยู่ในขั้นตอนสำนักงานกกต.พิจารณาว่าจะรับเป็นคำร้องหรือไม่ และหากไม่รับเป็นคำร้อง จะรับเป็นความปรากฏต่อกกต.หรือไม่ หากรับก็จะมีการตั้งคณะกรรมการไต่สวน มาดำเนินการสืบสวนไต่สวน และเชิญผู้ถูกกล่าวหามาให้ถ้อยคำ ซึ่งกระบวนการสอบสวนสามารถทำควบคู่ไปกับการประกาศรับรองผลก็ได้
เมื่อถามว่า จะต้องไม่ประกาศรับรองนายพิธาเป็นส.ส.ก่อนหรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า ยังพูดอย่างนั้นไม่ได้ เวลานี้อยู่ที่ว่า เราจะรับคำร้องเรื่องนี้ไว้พิจารณาหรือไม่ และถึงแม้ว่าจะรับคำร้องไว้พิจารณาแล้ว มีการตั้งคณะกรรมการไต่สวนก็ต้องมีการให้ความเป็นธรรมกับผู้ถูกกล่าวหามาชี้แจง ซึ่งกระบวนการทั้งหมดต้องใช้เวลา จึงไม่มีประเด็นอะไรให้ต้องไม่ประกาศรับรองผลคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
เมื่อถามต่อว่า นายพิธาได้เซ็นรับรองส่งผู้สมัครส.ส.ในฐานะหัวหน้าพรรค จะส่งผลให้ไม่ประกาศรับรองส.ส.พรรคก้าวไกลด้วยหรือไม่ ประธาน กกต.กล่าวว่า “ไม่ถึงขนาดนั้น” เมื่อถามต่อว่า ข้อบังคับพรรคก้าวไกล มีการกำหนดให้สมาชิกพรรคต้องไม่มีลักษณะต้องห้ามในการลงสมัครรับเลือกตั้ง แล้วหากนายพิธาถูกชี้ว่าผิด จะส่งผลต่อการได้รับการรับรอง ส.ส.พรรคก้าวไกลหรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า เรื่องนี้ยังอยู่ในกระบวนการพิจารณา การให้ความเห็นเบื้องต้นทำไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องที่กกต.ต้องพิจารณาร่วมกัน และยังต้องใช้เวลาอีกมาก แต่เรื่องทั้งหมด เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับหุ้นสื่อทั้งหมด ซึ่งการเชิญนายพิธามาชี้แจงก็ดำเนินการหลังมีการตั้งคณะกรรมการแล้ว
นายอิทธิพร กล่าวอีกว่า ไม่ได้รู้สึกกังวลกับการที่สังคมกดดันกกต.ให้รับหรือไม่รับเรื่องร้องเรียนนายพิธา เรารับทราบความเห็นของประชาชน แต่เราก็ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ไม่สามารถละเว้นการปฏิบัติงานได้ ส่วนที่นายพิธา กล่าวว่า หากได้เข้าเป็นนายกฯ จะโละองค์กรอิสระที่ไม่อิสระนั้น ตนเห็นว่าทุกคนมีสิทธิเสนอความเห็นและผลักดันให้เป็นไปตามนั้น เราเป็นเพียงผู้ปฏิบัติ